จากบ้านเดินทางโดยรถยนต์ของเพื่อนคุณหมอแสงวรรณ์ถึงหน้าตลาดแม่สายเดินชมตลาดเช้าอำเภอแม่สายที่มีสินค้าต่างๆมากมาย จากนั้นเอารถไปฝากที่สำนักงานปศุสัตว์แม่สาย แล้วเดินมารวมกลุ่มผู้ร่วมไปแสวงบุญที่เชียงตุง หน้าที่ว่าการอำเภอแม่สาย
มีแม่ค้านำผักผลไม้อาหารการกินตามวิถีชีวิตประจำวันมาจำหน่ายตั้งแต่เช้ามืด แม้อากาศจะหนาวเย็นมากก็ตาม
มีข้าวหลามที่มีขนาดเล็กๆ ซึ่งในตอนหลังผมได้ทราบว่าที่เชียงตุงก็มีแบบนี้ขายเช่นกัน
ผักผลไม้ เมล็ดพันธุ์พืช
ดอกของไม้ที่เรียกต้างในภาษาเหนือ
ผลไม้ และเขียงหมู ด้านหลัง
อาหารสำเร็จ
ขนมท้องถิ่น ขนมชั้น
ผลไม้ป่า เรียก มะขม
หอยขม
ถั่วเน่าแผ่น
ไม้เกียะสำหรับก่อไฟ ไม้จะข่านที่หั่นใส่แกงแคอาหารทางเหนือ
ปิ้งมัน
เตา สาหร่ายชนิดหนึ่ง เอามาผัดหรือยำกินอร่อยดี
เก็บภาพก่อนจะออกเดินทางข้ามชายแดน หน้าอนุสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราช
รถบัสรอรับส่งที่ชายแดนไทย
จัดกระเป๋าเป็นกลุ่มตามสีสามกลุ่ม ก่อนยกขึ้นรถขนกระเป๋าสกายแลปไปรอฝั่งเมียนมาร เพื่อแยกขึ้นรถบัสในฝั่งเมียนมาร์ที่เตรียมไว้ ๓ คัน วุ่นวายตามประสาคนหมู่มาก มีทั้งพระ เณร ฆารวาส
บนรถเมล์ไปส่งหน้าด่านฝั่งไทย
แค่สามกิโลเมตรจากหน้าอำเภอถึงด่านชายแดน
เห็นหลังคาสีน้ำเงินคือด่านไทยที่เพื่อนเล่าว่าสร้างอย่างไม่มีเอกลักษณ์ ไม่สวยงามสมเป็นด่านชายแดนไทย ซึ่งเพื่อนบอกว่าอาจารย์เฉลิมชัย ผู้สร้างออกแบบวัดร่องขุ่นเคยออกแบบให้แต่ผู้ที่มีอำนาจสร้างไม่ได้ทำกลับเอาแบบฮ่วยๆนี้มาสร้างคงจะมีงบน้อย จึงเอาแค่ใช้งานได้ก็พอ เสียดายเหมือนกัน อืม.....ผมก็ชักจะคล้อยตามเพื่อนเนาะจะได้เป็นที่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก รู้เลยว่าเป็นด่านแม่สายอย่างกับที่นักท่องเที่ยวชอบมาวัดร่องขุน มาดูหอนาฬิกา ยังไงละครับ....ดังไปทั่วโลก
ล้วงบัตรผ่านรอประทับตรา
ผ่านแล้วต่อไปก็เป็นคนไทยในพม่าครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น